Flexible Hose หรือท่ออ่อนเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบการลำเลียงของเหลว แก๊ส หรือวัสดุต่าง ๆ โดยถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง flexible hose สามารถโค้งงอได้เพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดและต้องการการปรับเปลี่ยนมุมของท่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการติดตั้ง ซึ่งแตกต่างจากท่อแข็งที่ต้องใช้ข้อต่อจำนวนมากเพื่อให้เกิดมุมงอ โดยทั่วไปแล้ว Flexible Hose มีหลากหลายประเภท
และวัสดุให้เลือกใช้งานตามความต้องการเฉพาะด้าน ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปทั้งในเรื่องของความทนทานต่อแรงดัน อุณหภูมิ ความยืดหยุ่น และความต้านทานต่อสารเคมี flexible hose การเลือกใช้งานให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานหนึ่งในประเภทของ Flexible Hose ที่พบเห็นบ่อยคือท่ออ่อนที่ทำจากวัสดุยาง
ท่อโลหะมักถูกนำไปใช้ในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง
ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ โดยยางธรรมชาติมีความยืดหยุ่นสูงและทนต่อการสั่นสะเทือน แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของความต้านทานต่อน้ำมันและสารเคมีบางชนิด flexible hose ในขณะที่ยางสังเคราะห์ เช่น Nitrile, EPDM หรือ Silicone จะมีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม เช่น ทนความร้อน ทนสารเคมี ทนน้ำมัน หรือทนรังสี UV ซึ่งเหมาะกับการใช้งานเฉพาะด้านมากขึ้น นอกจากนี้ ท่อยางมักถูกเสริมแรงด้วยเส้นใยหรือโครงสร้างโลหะเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้สามารถทนต่อแรงดันสูงและแรงดึงได้ดีขึ้น
ทำให้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ระบบไฮดรอลิก ระบบลำเลียงของเหลว หรืออุตสาหกรรมยานยนต์ท่ออ่อนอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือท่อโลหะ (Metal Hose) ซึ่งทำจากสแตนเลส อะลูมิเนียม หรือทองแดง โดยมีจุดเด่นที่ความทนทานต่ออุณหภูมิสูง ความดันสูง และสารเคมีรุนแรงได้ดีเยี่ยม ท่อโลหะมักถูกนำไปใช้ในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบท่อแก๊ส โรงไฟฟ้า flexible hose และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงสร้างของท่อโลหะมีความแข็งแรงมาก
ความแข็งแรงสูงแต่ยังคงน้ำหนักเบาและทนต่อแรงดันได้ดี
อาจทำให้ความยืดหยุ่นลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับท่อวัสดุอื่น นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบให้เป็นแบบ Corrugated หรือมีลอนเพื่อเพิ่มความสามารถในการยืดหยุ่นและรองรับการสั่นสะเทือนได้ดีขึ้นท่ออ่อนพลาสติกเป็นอีกหนึ่งประเภทที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย flexible hose pipe มีน้ำหนักเบา ต้นทุนต่ำ และสามารถผลิตให้มีคุณสมบัติเฉพาะตามความต้องการของผู้ใช้ได้ โดยวัสดุที่นิยมใช้ทำท่อพลาสติก ได้แก่ PVC, PU, PTFE และ Nylon ท่อ PVC มักใช้ในงานที่ไม่ต้องรองรับแรงดันสูง เช่น ระบบประปาหรือระบบลม ส่วนท่อ PU หรือ Polyurethane มีความยืดหยุ่นสูงและทนต่อการขีดข่วน flexible hose เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีการเคลื่อนที่หรือการบิดงอ ท่อ PTFE หรือ Teflon มีความทนทานต่อสารเคมีสูงมาก และสามารถทนความร้อนได้ดี จึงถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเคมีและอาหารที่ต้องการความสะอาดและความปลอดภัยสูง ส่วนท่อ Nylon มักใช้ในระบบนิวแมติกส์ เนื่องจากมีความแข็งแรงสูงแต่ยังคงน้ำหนักเบาและทนต่อแรงดันได้ดี