ชุดเครื่องนอนโรงแรม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการใส่ใจกับคุณภาพของการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องนอน ซึ่งประกอบไปด้วย ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มนวม หรือ ไส้ผ้านวม จึงมีความจำเป็นที่เราควรจะใส่ใจในรายละเอียดก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยมีเคล็ดลับและมีวิธีในการเลือกซื้อชุดเครื่องนอนโรงแรมดังนี้
1. วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
ชุดเครื่องนอนผลิตจากวัตถุดิบหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ( Polyester) , เส้นใยสังเคราะห์ผสมผ้าฝ้าย ( CVC, TC) ฯลฯ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือผ้าที่ผลิตจากฝ้าย 100% ( Cotton 100%) เพราะผ้าฝ้ายนอกจากจะเป็นเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติแล้ว ยังให้สัมผัสที่นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ซึมซับน้ำได้ดี ซักทำความสะอาดง่าย และมีความคงทนในการใช้งาน
2. จำนวนเส้นด้ายของการทอ ( Thread Count )
จำนวนเส้นด้ายของการทอเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเลือกชุดเครื่องนอนโรงแรม โดยชุดเครื่องนอนมีการความละเอียดของการทอตั้งแต่ 250 เส้นด้าย ใน 1 ตารางนิ้ว ขึ้นไป นับว่าเป็นชุดเครื่องนอนโรงแรมคุณภาพดี ทั้งนี้ ในการนับจำนวนเส้นด้ายของชุดเครื่องนอนนั้น หน่วยนับสากลที่ทั่วโลกนิยมใช้นั้น คือ จำนวนเส้นด้ายในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว หากมีจำนวนเส้นด้ายมากเท่าใด ก็เท่ากับว่าชุดเครื่องนอนโรงแรมชุดนั้นมีคุณภาพและราคาสูงตามไปด้วย เพราะการทอด้วยจำนวนเส้นด้ายเยอะๆ นั้น จะต้องใช้ด้ายที่มีขนาดเล็กมาก เพราะเมื่อนำมาทอแล้วจะทำให้ได้จำนวนเส้นด้ายที่มาก และ ผ้าที่ได้ก็จะมีความละเอียด เนียน เรียบ และ มีความทนทานในการใช้งานมากเท่านั้น
ดังนั้น ในการเลือกซื้อชุดเครื่องนอนโรงแรมผู้บริโภคควรดูจำนวนเส้นด้ายของการทอที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ซึ่งได้ระบุเป็นตารางนิ้ว แต่อาจจะมีเครื่องนอนบางยี่ห้อ ที่ระบุหน่วยเป็นอย่างอื่น เช่น 10 ตารางเซนติเมตร ซึ่งจะทำให้จำนวนเส้นด้ายแลดูเยอะกว่า ตารางนิ้ว เพราะพื้นที่ของ 10 ตารางนิ้ว มีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ตารางเซนติเมตร ซึ่งหากนำมาคำนวณเป็นตารางนิ้ว จะได้จำนวนเส้นด้ายที่มีจำนวนน้อย กลายเป็นชุดเครื่องนอนโรงแรมที่มีคุณภาพระดับรองลงไป ผู้บริโภคควรระมัดระวังในการสังเกตจำนวนเส้นด้ายให้ดี
3. โครงสร้างของเส้นด้ายที่นำมาทอ
หากเส้นใยฝ้ายที่นำมาผลิตเป็นชุดเครื่องนอนเป็นฝ้ายที่มีเส้นใยสั้นเมื่อนำมาผ่าน กระบวนการปั่นเป็นเส้นด้ายสำหรับนำไปทอแล้ว จะต้องใช้จำนวนเส้นใยตั้งแต่ 2 เส้น ( Double Ply ) ขึ้นไปเพื่อให้ได้ความยาว ตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป เพื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนซึ่งผ้าที่ใช้โครงสร้าง Double Ply นี้ เนื้อผ้าจะมีความหนาและค่อนข้างแข็งกระด้าง อีกทั้งยังจะทำให้ผ้าขึ้นขนได้ง่ายเมื่อผ่านการซักและใช้งานไประยะหนึ่งเพราะผลิตจากใยขนสั้น
ในทางตรงกันข้าม หากผู้ผลิตรายใด เลือกใช้เส้นใยฝ้ายที่มีความยาวของเส้นใยเกินกว่า 1 นิ้วขึ้นไป เมื่อนำมาผ่านกระบวนการทอแล้วการพันเกลียวระหว่างเส้นใยจะมีความห่างน้อยกว่าฝ้ายที่มีใยสั้น ดังนั้นผ้าที่ได้จึงเกิดจากการทอเป็นด้ายเส้นเดียว จะมีน้ำหนักเบา เรียบ เนียน และ มีความแน่น แข็งแรง ทนทานของเนื้อผ้า อีกทั้งยังไม่ขึ้นขนเมื่อใช้งานหรือผ่านการซักไปเป็นเวลานาน
4. กระบวนการย้อมสี สำหรับผ้าสีพื้น
เนื่องจากชีวิตในแต่ละวัน เราจะต้องเจอกับปัญหาและเรื่องราวต่างๆ มากมายอยู่แล้ว ดังนั้นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนผู้บริโภคในปัจจุบันจึงนิยมผ่อนคลาย ด้วยการเลือกลายของชุดเครื่องนอนโรงแรม แบบสบายๆ ลวดลายไม่เยอะมาก เช่น ลายเส้น, ลายสก๊อต , หรือผ้าทอลายในตัว ฯลฯ เพราะจะให้ความรู้สึกในการผ่อนคลายและเบาสบายเวลาพักผ่อน ผ้าที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันและสามารถใช้ได้นานโดยไม่ตกยุคสมัย ก็คือผ้าสีพื้นหรือสีล้วน ที่ไม่ผ่านกระบวนการพิมพ์แต่ผ้าสีพื้นก็มีกรรมวิธีในการผลิตที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีการย้อมสีผ้าในปัจจุบันที่นิยมใช้กันคือ ย้อมแบบ Piecdry และ ย้อมแบบ Reactive
– การย้อมแบบ Piecdry จะสามารถย้อมได้ง่ายกว่า และ สะดวกรวดเร็ว แต่ จะสามารถย้อมได้เพียงสีธรรมดา หรือ สีที่ผสมได้ง่ายๆ เช่น ฟ้า ชมพู เทา เชียว น้ำตาล แดง เป็นต้น อีกทั้ง ผ้าที่ได้จากการย้อมสีจะค่อนข้างแข็งกระด้าง เนื้อผ้าจะไม่เรียบเนียน เพราะส่วนของสีไม่ได้ซึมเข้าสูเส้นใยชั้นในสุด
– การย้อมแบบ Reactive จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และ ซับซ้อน อีกทั้งยังมีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่า โดยผ้าที่จะย้อมแบบ Reactive ได้นั้น ผ้าที่ใช้ย้อมจะต้องผ่านกระบวนการ Mercerise ก่อน คือ การทำให้เส้นด้ายพองตัวก่อนนำไปย้อม เพื่อให้สีสามารถซึมเข้าสู่ชั้นในสุดของเนื้อผ้าได้ และสีที่ใช้ย้อมก็เป็นสีพิเศษ
5. คุณสมบัติพิเศษ ( Value Added)
อีกปัจจัยหนึ่งของการเลือกชุดเครื่องนอนโรงแรม นอกจากการใส่ใจกับวัตถุดิบที่ผลิต ขบวนการผลิต และ ความพิถีพิถันต่างๆ แล้ว ผู้บริโภคไม่ควรมองข้ามคุณสมบัติพิเศษของชุดเครื่องนอน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ช่วงเวลาพักผ่อน เป็น ช่วงเวลาที่คุ้มค่าและดีที่สุด คุณสมบัติพิเศษในชุดเครื่องนอน ที่ควรพิจารณาได้แก่ คุณสมบัติในการป้องกันเชื้อรา แบคทีเรีย และ กลิ่นอับ เพราะความชื้นที่เกิดจากคราบเหงื่อไคล รวมไปถึงความชื้นจากสภาพอากาศและเครื่องปรับอากาศ อาจส่งผลให้ชุดเครื่องนอนสะสมความชื้นจนเกิดเป็น
คราบเชื้อราหรือ แบคทีเรียได้ อันจะนำมาซึ่งกลิ่นอับ และ การเสื่อมสลายของชุดเครื่องนอนโรงแรมสุดโปรด อีกทั้ง เชื้อรา และ แบคทีเรียยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น ตัวไรฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ
ดังนั้น การเลือกชุดเครื่องนอนโรงแรมที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อรา แบคทีเรีย และ กลิ่นอับ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภคควรใส่ใจในการเลือกซื้อ ในปัจจุบัน