สารเติมเต็มหรือเรียกอีกอย่างว่า ฟิลเลอร์ คือเครี่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA จุดประสงค์เพื่อเติมเต็มข้อบกพร่องบริเวณใบหน้า เช่น ลดร่องแก้ม (Nasolabial Fold) ลดริ้วรอยบริเวณแก้มและริมฝีปาก และรอยเหี่ยวย่นหลังมือ คนส่วนใหญ่อาจจะสับสนว่าการใช้ฟิลเลอร์และโบท็อกซ์เหมือนกัน ฟิลเลอร์ เพื่อช่วยดึงยกหน้า ฉีดเพื่อแก้ไขปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนวัย และฉีดเพื่อการเติมเต็มผิวและกระดูกที่ยุบตัวตามวัย ฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขใบหน้าได้ 3 แบบ
อย่างการฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยดึงยกหน้า ฉีดเพื่อแก้ไขปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนวัย และฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มของผิวที่ยุบตัว ซึ่งแต่ละแบบ ต้องคำนึงถึงระดับความลึกของผิว เพื่อวางสารฟิลเลอร์ได้ตรงจุดบกพร่อง ที่สำคัญ เมื่อใบหน้าดูยกกระชับขึ้น ใบหน้าก็จะดูเรียวสวยตาม trend ที่สำคัญคือการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้ทำให้ใบหน้าดูบวมใหญ่ หรืออ้วนขึ้น ตามความเข้าใจที่ผิดของคนส่วนใหญ่เลย
ทั้งมลพิษ อากาศร้อน อายุที่เพิ่มขึ้น หรือพฤติกรรมนอนดึกตามไลฟ์สไตล์คนสมัยนี้ ล้วนเป็นสาเหตุทำให้ผิวดูแก่กว่าวัย ยามที่อายุเพิ่มมากขึ้น ทั้งผิวหนัง คอลลาเจน อีลาสติน และแม้แต่กระดูก ย่อมต้องเสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะโครงสร้างของกระดูก บางคนอาจเอาภาพตัวเองตอนสาวๆมาดู ตอนนั้นพวงแก้มเปล่งปลั่งสีชมพู แต่ตอนนี้แห้งตอบ สาเหตุหลักก็เพราะ เมื่อเราอายุมากขึ้น กระดูกบางส่วนย่อมบุบตัวลง ไขมันบางส่วนหายไป ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่ออื่นๆ ที่อยู่ด้านบนด้วย
เดี๋ยวนี้ ฟิลเลอร์ไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก เพียงอย่างเดียวแล้ว แต่สามารถฉีด เพื่อยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย แก้ไขความชราได้ ซึ่งเทคนิคการฉีดแต่ละจุดนั้น ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยคำนึงถึงกายวิภาคศาสตร์ใบหน้าเป็นหลัก ตั้งแต่ชั้นกระดูกซึ่งอยู่ลึกสุด เป็นโครงสร้างสำหรับใช้เป็นตัวค้ำยันเนื้อเยื่อข้างบนทั้งหมด อย่าลืมว่าเมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น โครงกระดูกย่อมบุบลง ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่ออื่นๆ ชั้นถัดมาคือเส้นเอ็นและโครงข่ายเส้นเอ็นของใบหน้า ที่ช่วยยึดชั้นผิวหนังไม่ให้หย่อนคล้อย ลำดับถัดมาคือชั้นกล้ามเนื้อและแผ่นเนื้อเยื่อพังผืด หรือที่หมอเรียกว่า SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) เป็นตัวแบ่งกั้นเนื้อเยื่อไขมัน และผิวหนังชั้นบนกับเนื้อเยื่อส่วนล่าง ซึ่งชั้นนี้เองที่หมอศัลยกรรมใช้เย็บเพื่อดึงยกหน้า ชั้นถัดมาคือชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งมีเนื้อเยื่อพังผืดเล็กๆ แทรกเป็นตาข่ายเกาะอยู่ใต้ผิวหน้า และชั้นบนสุดคือชั้นผิวหนัง ซึ่งมีทั้งรูขุมขนและต่อมไขมันจำนวนมากเมื่อรู้รายละเอียดแต่ละชั้น จะทำให้เรารู้ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ที่ชั้นไหน เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าได้ตรงจุด